“K” Line รับมอบเรือบรรทุกรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิง LNG ลำใหม่ “TRITON HIGHWAY” ขนาดบรรจุ 7,000 คัน

เรือบรรทุกยานยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง LNG ชื่อ “TRITON HIGHWAY” ซึ่งมีความจุ 7,000 คัน ได้ถูกส่งมอบให้กับบริษัท Kawasaki Kisen Kaisha, Ltd. (“K” LINE) เมื่อวันที่ 10 เมษายน เรือดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงหลักเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และถูกสร้างขึ้นที่สำนักงานใหญ่ Marugame ของบริษัท Imabari Shipbuilding Co., Ltd. (Imabari Shipbuilding)

โดยมีการจัดพิธีตั้งชื่อเรือ และเรือได้รับการตั้งชื่อว่า TRITON HIGHWAY โดยคุณ Kazunari Kumakura หัวหน้ากลุ่มจัดซื้อของบริษัท Toyota Motor Corporation (Toyota)

เชื้อเพลิง LNG ถูกคาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก (GHG) ได้ 25% ถึง 30% และลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ออกไซด์ (SOx) ซึ่งเป็นสาเหตุของมลพิษทางอากาศได้เกือบ 100% นอกจากนี้ยังเป็นเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรุ่นใหม่ที่คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ได้ 80% ถึง 90% โดยใช้ระบบหมุนเวียนก๊าซไอเสีย (EGR) ร่วมกับเชื้อเพลิง LNG เรือยังติดตั้งเครื่องยนต์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์แบบสองเชื้อเพลิง “6S60ME-C10.5-GI-EGRBP” โดย MAN Energy Solutions

นอกจากนี้ ในเรื่องมาตรการความปลอดภัยจากอัคคีภัยที่ “K” LINE ได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว นี่เป็นเรือบรรทุกยานยนต์ใหม่ลำแรกที่ได้รับการรับรองจาก ClassNK (Fire Fighting) (Electric Vehicle) รวมถึงเรือลำนี้ มีเรือบรรทุกยานยนต์ 5 ลำที่ดำเนินการโดย “K” LINE ที่ได้รับการรับรอง

ในวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2050 ของ “K” LINE – ทะเลสีฟ้าเพื่ออนาคต (“K” LINE Environmental Vision 2050 -Blue Seas for the Future) -*1 ได้ตั้งเป้าหมายระยะกลางในปี 2030 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการปล่อย CO2 ให้ดีขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปี 2008 ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของ IMO ที่ปรับปรุง 40% นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2050 ว่า “ความท้าทายในการบรรลุการปล่อย GHG สุทธิเป็นศูนย์” โดยเป็นแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินการต่อไปในการนำเชื้อเพลิงใหม่ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำมาใช้และท้าทายในการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ข้อมูลเรือ

*1. วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมปี 2050 ของ “K” LINE: ทะเลสีฟ้าเพื่ออนาคต  (“K” LINE Environmental Vision 2050: Blue Seas for the Future) เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการเพื่อลด GHG โดยมีการดำเนินการหลายอย่าง เช่น การนำเชื้อเพลิงที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น แอมโมเนียและไฮโดรเจน และเชื้อเพลิงที่เป็นกลางทางคาร์บอน เช่น bio-LNG และเชื้อเพลิงสังเคราะห์ มาใช้